วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

10 อันดับอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก











10 อันดับอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก

ใคร ที่เป็นแฟนพันธ์แท้อาหารต่างๆ พอได้มาอ่านหัวข้อนี้คงต้องน้ำลายสอกันทุกคนเป็นแน่แท้ เพราะนี่คือการจัดอันดับอาหารที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดในโลกนี้แล้วนั่น เอง!!! ทีมงาน toptenthailand ขอนำเสนอ "10 อันดับอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก" มีอะไรบ้างเราไปชมกันครับ


10.   Chicken muamba, กาบอง

UploadImage

อาหาร ของชาวกาบองที่จะใส่ส่วนผสมลงไปในเนยถั่ว ส่วนประกอบที่จะต้องใช้มี ไก่ พริก กระเทียม มะเขือเทศ พริกไทย เกลือ กระเจี๊ยบ และไขมันปาล์ม


9.   ไอศครีม, สหรัฐอเมริกา

UploadImage

สไตล์ไอศครีมของอเมริกาที่จะมี ถั่วต่างๆ มาชเมลโลว์ และช็อคโกแลตซอส


8.   ต้มยำกุ้ง, ประเทศไทย

UploadImage

อาหารอันโด่งดังของไทย กุ้ง เห็ด มะเขือเทศ ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูด กับกะทิที่เข้มข้น ให้รสชาติเปรี้ยว เค็ม และเผ็ด ถูกปาก


7.   Penang assam laksa, มาเลเซีย

UploadImage

ปลา ทู มะขาม พริก สะระแหน่ ตะไคร้ หัวหอม สับปะรด ตุ๋น หนึ่งในอาหารของมาเลเซียที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยรสเผ็ด เปรี้ยว ที่เข้ากันกับเส้นก๋วยเตี๋ยว


6.   แฮมเบอเกอร์, เยอรมัน

UploadImage
การรวมกันของขนมปัง เนื้อ สลัด ก็เป็นทางออกที่ดีสำหรับประเทศที่ผลิตเนื้อได้มาก



5.   เป็ดปักกิ่ง, จีน

UploadImage

น้ำเชื่อมที่เคลือบที่ผิวที่เป็นความลับ ย่างช้าๆ ในเตาอบ จนกรอบ


4.   ซูชิ, ญี่ปุ่น

UploadImage

อาจไม่มีอะไรซับซ้อนมากกว่าปลาดิบและข้าว แต่กลับเป็นวิธีที่ปลาและข้าวอยู่ด้วยกันแล้วทำให้ทั่วโลกชื่นชอบ


3.   ช็อคโกแลต, เม็กซิโก

UploadImage


ชาว มายันดื่มช็อคโกแลต เมล็ดโกโก้ที่ออกจากป่ามาเข้าสู่การพัฒนาในการทำอาหาร หากปราศจากเนื้อครีม รสหวานปนขม ของช็อคโกแลต วันวาร์เลนไทน์และอีสเตอร์คงดูจืดชืดลงไป


2.   neapolitan pizza, อิตาลี

UploadImage


พิซ ซ่าที่ดีที่สุดและยังคงความเรียบง่ายในแบบ neapolitan ได้รับการควบคุมจากองค์การการค้าให้ใช้เกลือทะเล แป้งสาลีคุณภาพสูง มะเขือเทศสดเพียงสามชนิด รีดแป้งด้วยมือ และใช้เตาอบที่ใช้ฟืน รวมถึงข้อกำหนดในเรื่องคุณภาพอื่นๆ


1.   แกงมัสมั่น, ประเทศไทย




ราชา แห่งแกง และอาจจะเป็นราชาแห่งอาหารเลยก็ได้ เพราะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของรสชาติหวาน เค็ม เผ็ด ความหอมมันจากกะทิด้วยความเผ็ดร้อน และความอร่อยที่รวมอยู่ในรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์กว่าอาหารไทยอื่นๆ จึงได้รับการยกย่องเป็น “ราชาแห่งแกงเผ็ด” เลยทีเดียว

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วัดพระแก้ว





วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระแก้วมรกต วัดสำคัญที่สุดของกรุงรัตนโกสินทร์

     วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดพระแก้ว นั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๓๒๗
     เป็นวัดที่สร้างขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง ตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ สมัยอยุธยา วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ทางทิศตะวันออก มีพระระเบียงล้อมรอบเป็นบริเวณ เป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาทถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา

     รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าให้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย มาประดิษฐาน ณ ที่นี้ วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้ ภายหลังจากการสถาปนาแล้ว ก็ได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชกาล เพราะเป็นวัดสำคัญ จึงมีการปฏิสังขรณ์ใหญ่ทุก ๕๐ ปี คือในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน
     เนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ ๒๐๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ที่ผ่านมา การบูรณปฏิสังขรณ์ที่ผ่านมา มุ่งอนุรักษ์สถาปัตยกรรมและศิลปกรรมอันเป็นมรดกชิ้นเอกของชาติ ให้คงความงามและรักษาคุณค่าของช่างศิลปไทยไว้อย่างดีที่สุด เพื่อให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้อยู่คู่กับกรุงรัตนโกสินทร์ตลอดไป
พระอุโบสถ
สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๑ เป็นพระอุโบสถขนาดใหญ่ หลังคาลด ๔ ระดับ ๓ ซ้อน มีช่อฟ้า ๓ ชั้น ปิดทองประดับกระจก ตัวพระอุโบสถมีระเบียงเดินได้โดยรอบ มีหลังคาเป็นพาไลคลุม รับด้วยเสานางรายปิดทองประดับกระจกทั้งต้น พนักระเบียงรับเสานางราย ทำเป็นลูกฟักประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีอย่างจีน ตัวพระอุโบสถมีฐานปัทม์รับอีกชั้นหนึ่ง ประดับครุฑยุดนาคหล่อด้วยโลหะปิดทอง มีเสารายเทียนหล่อด้วยทองแดงล้อมรอบทั้งสี่ด้าน
ผนังพระอุโบสถ ในรัชกาลที่ ๑ เขียนลายรดน้ำบนพื้นชาดแดง รัชกาลที่ ๓ โปรดเล้าฯ ให้ปั้นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ปิดทองประดับกระจก เพื่อให้เข้ากับผนังมณฑป ปิดทองประดับกระจก บานพระทวารและพระบัญชรประดับมุกทั้งหมด ฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ ๑ ที่เชิงบันไดมีสิงห์หล่อด้วยสำริดบันไดละคู่ รวม ๑๒ ตัว โดยได้แบบมาจากเขมรคู่หนึ่ง แล้วหล่อเพิ่มอีก ๑๐ ตัว
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร

     ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต)
พระพุทธรูปปางสมาธิ ทำด้วยมณีสีเขียวเนื้อเดียวกันทั้งองค์ หน้าตักกว้าง ๔๘.๓ ซม. สูงตั้งแต่ฐานถึงยอดพระเศียร ๖๖ ซม. ประดิษฐานอยู่ในบุษบกทองคำ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระราชศรัทธาสร้างเครื่องทรงถวายเป็นพุทธบูชา สำหรับฤดูร้อนและฤดูฝน
     เครื่องทรงสำหรับฤดูร้อน เป็นเครื่องต้นประกอบด้วยมงกุฎพาหุรัด ทองกร พระสังวาล เป็นทองลงยา ประดับมณีต่างๆ จอมมงกุฎประดับด้วยเพชร
     เครื่องทรงสำหรับฤดูฝน เป็นทองคำ เป็นกาบหุ้มองค์พระอย่างห่มดอง จำหลักลายที่เรียกว่าลายพุ่มข้าวบิณฑ์ พระเศียรใช้ทองคำเป็นกาบหุ้ม ตั้งแต่ไรพระศกถึงจอมเมาฬี เม็ดพระศกลงยาสีน้ำเงินแก่ พระลักษมีทำเวียนทักษิณาวรรต ประดับมณีและลงยาให้เข้ากับเม็ดพระศก
     พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างเครื่องฤดูหนาวถวายอีกชุดหนึ่ง ทำด้วยทองเป็นหลอดลงยาร้อยด้วยลวดทองเกลียว ทำให้ไหวได้ตลอดเหมือนกับผ้า ใช้คลุมทั้งสองพาหาขององค์พระ
     บุษบกทองที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร สร้างด้วยไม้สลักหุ้มทองคำทั้งองค์ ฝังมณีมีค่าสีต่างๆ ทรวดทรงงดงามมาก เป็นฝีมือช่างรัชกาลที่ ๑ เดิมบุษบกนี้ตั้งอยู่บนฐานชุกชี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างพระเบญจาสามชั้นหุ้มด้วยทองคำ สลักลายวิจิตรหนุนองค์บุษบกให้สูงขึ้น บนฐานชุกชีด้านหน้า ประดิษฐานพระสัมพุทธพรรณี เป็นพระพุทธรูปที่คิดแบบขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ ๔ โดยไม่มีเมฬี มีรัศมีอยู่กลางพระเศียร จีวรที่ห่มคลุมองค์พระเป็นริ้ว พระกรรณเป็นแบบหูมนุษย์ธรรมดาโดยทั่วไป
     หน้าฐานชุกชีประดิษฐานพระพุทธปฏิมากรฉลองพระองค์รัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒ องค์ด้านเหนือพระนามว่า พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก องค์ด้านใต้พระนามว่า พระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระพุทธรูปทั้งสองพระองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์สูง ๓ เมตร ทรงเครื่องแบบจักรพรรดิ์หุ้มทองคำ เครื่องทรงเป็นทองคำลงยาสีประดับมณี

หนังสืออ้างอิง : นำชมกรุงรัตนโกสินทร์
(เนื่องในงานสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี) โดย กองโบราณคดี กรมศิลปากร พ.ศ. ๒๕๒๕






แฟรชั่น

แหล่งเสื้อผ้าแฟชั่น

สินค้าไหม่




       

Lanidea.com คือแหล่งรวม เสื้อผ้าแฟชั่น

แนว Street ที่ฮิตและอินเทรนด์ที่สุด ส่งตรงจากแหล่งช้อปปิ้งคูลๆ เช่น สยาม, terminal 21, จตุจักร โดยเรามีสินค้าแฟชั่นหลากหลายแบบให้เลือกทั้ง

เสื้อผ้าผู้ชาย

เช่น

เสื้อผู้ชาย

เสื้อยืด

เสื้อเชิ้ต

เสื้อโปโล,

กางเกง

กระเป๋าแฟชั่น

และ

เสื้อผ้าแฟชั่น ผู้หญิง

เช่น

เสื้อยืดแฟชั่น

เสื้อผู้หญิง, เสื้อเอวลอย,

กระโปรง

กางเกง,

Dress

แหวน,

สร้อยคอ, ตุ้มหู



       เสื้อผ้าแฟชั่น ทุกชิ้นของเราเป็นของแท้ ถูกลิขสิทธิ์ 100% และอัพเดตใหม่ทุกสัปดาห์เรียกว่าล้ำนำเทรนด์ก่อนใครแน่นอน เสื้อผ้าแฟชั่น และสินค้าแฟชั่นทุกชิ้นมีของพร้อมส่งได้ทันที โดยเราถ่ายรูปและทำข้อมูลสินค้าเองทั้งหมด เพราะว่าเสื้อผ้าแฟชั่นแต่ ละชิ้นของเราจะมีความแตกต่างกันไปทั้งด้านการออกแบบ วัสดุ และ fitting ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละ Brands เพื่อนๆจึงสามารถเลือกซื้อไป Mix and Match ตามสไตล์ของตัวเองได้เลย หรือเพื่อนๆจะดู Feedback จากสมาชิกคนอื่นเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจด้วยก็ได้

       นอกจากนี้เรายังให้บริการจัดส่งถึงบ้านแบบฟรีๆ ทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ทางไปรษณีย์ไทย และเรายังรับประกันความพอใจ ยินดีคืนเงินให้ภายใน 7 วัน รวมไปถึงการเลือกชำระเงินได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นโอนเงินทางธนาคาร บัตรเครดิตหรือเดบิต Counter Service Paypal ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยเดียวกับธนาคาร(SSL) เพื่อนๆจึงมั่นใจได้เลยว่าซื้อของกับ Lanidea.com จะได้รับ เสื้อผ้าแฟชั่น ที่ฮิต อินเทรนด์ คุณภาพดี รวดเร็ว ปลอดภัย ในราคาชิวๆ แน่นอน 
 
 Lanidea.com ศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นออนไลน์ของที่มีสินค้าให้เลือกมากมาย

ทั้ง 
เสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชาย เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต กางเกง กระเป๋า แหวน แว่นกันแดด

ส่งตรงจากแหล่งช้อปปิ้งดังๆในเมืองไทย เช่น สยาม จตุจักร
 
 
 เสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชาย แบรนด์ต่างๆ เช่น Art of Rock, Brotherhood, Old Skull, DotDotDot, iClub, Made in Bangkok, Mag, Shirtoria, Masque, The Twenty Second, Uma, Verz, Yesterday Today Tomorrow  และอื่นๆ อีกมากมาย
จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย และมีระบบ SSL เข้ารหัสรักษาความปลอดภัยทุกข้อมูลของท่านเสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชาย มีสินค้าใหม่อัพเดตทุกสัปดาห์ เรียกว่าไม่ตกเทรนด์แน่นอน นอนเย็นๆ อยู่บ้านก็ได้ของเหมือนไปเดินเลือกซื้อเองเลย
 
 
 
               
       สำหรับยุคนี้ และแฟชั่นที่มาแรงในยุคนี้ ที่หนุ่ม ๆ ทั้งหลายจะต้องตามเทรนด์นี้ ก็คือ การใส่กางเกงขาเต่อนั้นเองค่ะ เนื่องจากปัจจุบัน ได้กลายเป็นแฟชั่น ที่กำลังฮิตในกลุ่มของชายหนุ่ม ทั้งหลายที่ชอบ เรื่องของการแต่งตัวและก็การตามเทรนด์แฟชั่น  ทำให้คุณผู้ชายทั้งหลาย จะต้องไปซื้อมาใส่ค่ะ และเรารับรองแน่นอนว่า ถ้าคุณนำมาใส่แล้ว ได้ไปเดินโชว์นอกบ้าน  แน่นอนว่าคุณคงจะไม่ตกยุคแน่นอนค่ะ และคุณอาจจะเป็นที่สนใจของคุณสาว ๆ แน่นอนค่ะ สำหรับในวันนี้ ทางเรามีเคล็ดลับ สำหรับการใส่กางเกงขาเต่อ มาฝากคุณผู้ชายทั้งหลาย
 
 
เลือกกางเกงขาเต่อยังไง เพื่อให้เหมาะกับคุณ   

 เคล็ดลับแรก "ผอมเพรียวแบบง่ายๆ" (Simply to Slim) สำหรับผู้ชายที่รูปร่างใหญ่ ให้สวมเสื้อเชิ้ตที่พอดีตัว ใช้สีเอิร์ธโทน หรือเฉดสีคลาสสิคช่วยพรางหุ่นให้ดูสมาร์ท สวมสูทสีเข้มเพิ่มความภูมิฐาน พร้อมสวมกางเกงเอวต่ำช่วยพรางช่วงสะโพกให้สมส่วนมากขึ้น

เคล็ดลับ ที่ 2 "หนุ่มสไตล์เทรนดี้ที่ดูทันสมัย" (Easy ! to be Trendy Man) สวมเชิ้ตลายทาง ทรงสลิมฟิต หรือเชิ้ตลายสก๊อตช่วยเพิ่มความเทรนดี้

เคล็ด ลับที่ 3 "ทางลัดแก้ปัญหาผู้ชายตัวเล็ก ด้วยลุคให้ดูสูง มีสง่า ราศี" (Tips to Look Taller) เลือกเสื้อคัตติ้งสไตล์สลิมฟิต เข้ารูปนิดๆ สวมเข็มขัด ตัวช่วยสำคัญที่ให้รูปร่างดูสูงขึ้น กางเกงทรงยาวพอดี ไม่กองพื้น จะช่วยให้ขาดูยาวขึ้น อย่าใส่กางเกงขาพอง หรือตีเกล็ด

เคล็ดลับที่ 4 "สลัดคราบหนุ่มขี้อาย" (Time to be Hot Guy) ใส่ยีนส์เดฟกับ เสื้อโปโล แล้วพับแขนทำให้ดูแมนขึ้น หรือใส่กางเกงทรงเบอร์มิวด้ากับรองเท้าผ้าใบ

เคล็ด ลับสุดท้าย "หนุ่มขี้เล่น ด้วยแฟชั่นสีสันสดใส" (Open Mind & Find Your Color) เพิ่มลูกเล่นให้เสื้อยืดสีฟ้าสดใส ด้วยเสื้อนอกลายสก๊อตสีส้มแมทช์กับยีนส์สุดเท่ หรือกับเสื้อสีม่วงขรึม กับเสื้อสว่างสดสีเขียว สวมรอง เท้าสปอร์ต และกางเกงเฉดสีเบจ-น้ำตาล ช่วยทอนความหวานและดึงเสน่ห์สดใสของสีเสื้อ




แฟชั่น เสื้อผ้าผู้ชาย

 นาฬิกาแฟรชั่นชาย

 
นาฬิกาสำหรับผู้ชายที่ได้รับความนิยมจากผู้ชายเกาหลีจำนวนมาก เพราะความมีเอกลักษณ์เฉพาะเรือน ที่เน้นความ เท่ เก๋และดูหรูหราในแบบฉบับของผู้ชายที่จะสะท้อนความ เท่ในตัวคุณออกมาจากการสวมใส่นาฬิกาไม่ว่าจะเป็นเวลาใดคุณก็เท่ และดูดีได้จากการสวมใส่นาฬิกาแห่งกาลเวลา

++ New Arrival++

รองเท้าแฟรชั่นชาย

 

สุดยอด 10 อันดับ สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง




สุดยอด 10 อันดับ สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง


        สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในต่างแดน เชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักเลือกที่จะบินไปเที่ยวในยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา เพื่อไปช้อปปิ้ง หาของกินอันเลื่องชื่อและถ่ายรูปกันตามสถานที่ชื่อดังที่คนนิยมไปกัน เช่น ลอนดอน ปารีส กรุงโรม นิวยอร์ก เป็นต้น
 แต่ คุณทราบหรือไม่ว่า ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามซุกซ่อนอยู่บนโลกใบนี้ ซึ่งบางแห่งหลาย ๆ คน อาจไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำไป วันนี้กระปุกดอทคอมจะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามแบบสุด ๆ ชนิดที่ว่า ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิตมาเผยให้ทราบกัน

10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
 
 
 
 
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

 1. อุโมงค์วิสเทอเรีย (Wisteria Tunnel)
          สำหรับผู้ที่ชื่นชอบดอกไม้นานาพันธุ์ จะต้องหลงรักอุโมงค์วิสเทอเรียอย่างแน่นอน โดยอุโมงค์ดอกไม้แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่สวนคาวาชิ ฟูจิ ในเมืองคิตะกีวชู ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งภายในอุโมงค์จะมีดอกไม้สีสันสวยงามต่าง ๆ ห้อยอยู่ด้านบน เรียงกันเป็นแถว ๆ ยาวไปตามเส้นทาง ที่เมื่อเดินเข้าไปแล้วจะรู้สึกเหมือนอยู่ในสรวงสวรรค์แมกไม้เลยที
เดียว
 
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
 
2. ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre)
          ชิงเกว แตร์เร คือ ส่วนประกอบของหมู่บ้านหลากสีทั้ง 5 แห่ง ที่อยู่ติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ในประเทศอิตาลี ซึ่งนับว่าเป็นสถานที่ยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่ต้องการมาชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของตึกรามบ้านช่องที่ถูกฉาบไว้ด้วย สีสันสะดุดตามากมาย ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใสที่อยู่ด้านหลัง เรียกได้ว่าสถานที่ ๆ มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกก็ว่าได้
 
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

 3. โรงแรมเมจิค เมาน์เท่น (Magic Mountain hotel)
          เมื่อดูภายนอกของโรงแรมแห่งนี้ อาจดูเหมือนเป็นสถานที่ใช้สำหรับถ่ายหนัง เพราะโรงแรมเมจิค เมาน์เท่น มีรูปทรงคล้ายกับภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่านอยู่ในป่าเขียวชะอุ่ม ซึ่งมีน้ำตกพวยพุ่งไหลงลงมาจากด้านบนภูเขาอีกด้วย จนแทบไม่น่าเชื่อว่ามันคือที่พักสำหรับคน โดยโรงแรมภูเขาสุดหรูแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวภายในอุทยานฮุยโล ฮุยโล (Huilo Huilo) บริเวณแคว้นลอส ริออส ประเทศชิลี
 
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
 
 4. ครุ๊ก ฟอเรสท์ (Crooked Forest)
          ครุ๊ก ฟอเรสท์ เป็นสถานที่ตามธรรมชาติซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศโปแลนด์  โดยสิ่งที่ทำให้สถานที่แห่งนี้มีความแปลกพิสดารไม่เหมือนใครตรงที่ ต้นสนจำนวนมากประมาณ 400 ต้น ที่อยู่ในผืนที่แห่งนี้ มีลักษณะโค้งงอบริเวณโคนต้นผิดจากต้นไม้ทั่วไป ซึ่งประวัติของพวกมันทราบแต่เพียงว่ามีคนมาปลูกเอาไว้ในปี 1939 แต่ก็ไม่มีใครทราบทำไมมันถึงมีรูปร่างเช่นนี้ 
 
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

 5. อุโมงค์แห่งความรัก (Tunnel Of Love)
          อุโมงค์ต้นไม้ขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยใบไม้สีเขียวแห่งนี้ ตั้งอยู่บนรางรถไฟเก่าแห่งหนึ่งในเมืองคลีเวน ประเทศยูเครน ซึ่งสาเหตุที่ได้ชื่อว่าเป็น "อุโมงค์แห่งความรัก" เกิดจากเหล่าบรรดาคู่รักนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ชอบมาเดินเที่ยวเล่นกันภายในอุโมงค์แห่งนี้อยู่เสมอ
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
 
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
 

 6. บ่อน้ำพุร้อน บลู ลากูน (Blue Lagoon Hot Springs)
          บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยบรรยากาศของสถานที่จะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว ที่แม้อากาศจะหนาวเหน็บขนาดไหน แต่อุณหภูมิของน้ำในบ่อก็ยังคงร้อนอยู่เสมอ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่สร้างความอบอุ่นในวันที่หิมะมาเยือนได้อย่างสบาย ๆ
 
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
 
 7. ไอซ์ แคนยอน (Ice Canyon)
          หุบเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์ เกิดขึ้นจากการละลายตัวของก้อนน้ำแข็งจำนวนมาก โดยมีความลึกถึง 150 ฟุต ในกรีนแลนด์ (Greenland) ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของประเทศเดนมาร์ก แม้ดูเผิน ๆ ดินแดนแห่งนี้อาจเป็นเพียงแค่พื้นที่ว่างเปล่า ที่เต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งสีขาวทั่วไป แต่บริเวณช่องว่างในหุบเขาที่มองลงไปเห็นธารน้ำสีฟ้าใส ก็ทำให้ผู้คนจำนวนมากหลงเสน่ห์หุบเขาน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่แห่งนี้อย่างง่ายดาย
 
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

 8. บอล พีระมิด (Ball Pyramid)
          บอล พีระมิด คือ ภูเขาหินริมทะเลสูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน โดยมีความสูงอยู่ที่ 562 เมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะลอร์ด ฮาว ในมหาสมุทรแปซิฟิค ซึ่งความจริงภูเขาหินแห่งนี้ เป็นส่วนที่เหลืออยู่ของภูเขาไฟรูปโล่ เมื่อประมาณ 7 ล้านปีที่แล้ว 
 
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

 9. เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ (The Great Barrier Reef)
          เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ เป็นแนวปะการังนอกชายฝั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในทะเลคอรัล บริเวณนอกชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย โดยสถานที่แห่งนี้ยังได้รับความนิยมมากมายจากนักดำน้ำและนักท่องเที่ยวทั่ว โลก ที่ต่างพากันยกนิ้วให้กับความสวยสดงดงามของแนวปะการังแห่งนี้
 
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
 
10 สถานที่ท่องเที่ยวแสนงดงามที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

 10. อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park)
          อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่ ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งเป็นอุทยานเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย โดยภายในอุทยานยังแวดล้อมไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ และมีธารน้ำตกมากมายหลายชั้น ที่สามารถสะกดนักท่องเที่ยวให้ตราตรึงกับบรรยากาศได้อย่างอยู่หมัด